การปลูกผมสำคัญกับชีวิตอย่างไร?
เส้นผมเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ส่งผลต่อภาพลักษณ์เป็นอย่างยิ่ง และส่งเสริมความมั่นใจในแต่ละคน เพราะผม คือมงกุฎของใบหน้า เพราะทรงผมเปลี่ยน ใบหน้าเปลี่ยน ภาพลักษณ์เปลี่ยน
เส้นผมเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ส่งผลต่อภาพลักษณ์เป็นอย่างยิ่ง และส่งเสริมความมั่นใจในแต่ละคน เพราะผม คือมงกุฎของใบหน้า เพราะทรงผมเปลี่ยน ใบหน้าเปลี่ยน ภาพลักษณ์เปลี่ยน
ปัจจุบันมาตรฐานความงามของสังคมที่สูงขึ้น และทำให้ความงดงามจากภายนอก เป็นตัวบ่งบอกภาพลักษณ์ ที่อยู่เหนือทุกสิ่ง อย่างที่เขาว่า หน้าตาดี รูปร่างดี มีชัยไปกว่าครึ่ง ซึ่งหน้าตาดี รูปร่างดี ไม่ได้มองแค่จุดใดจุดหนึ่ง แต่ต้องมองจากองค์ประกอบโดยรวม ทรงผมจึงสำคัญอย่างมากที่จะบ่งบอกความเป็นตัวคุณ ปัญหาหัวล้าน หน้าผากเถิก ผมร่วง ผมบาง สามารถกระทบต่อบุคลิกภาพ และจิตใจ ทำให้หลายคนสูญเสียความมั่นใจในตนเอง และใช้ชีวิตอยู่อย่างยากลำบาก
ในปี 2025 นี้ การปลูกผมจึงเป็นนิยมอย่างมาก เพราะเป็นวิธีการแก้ปัญหาที่มีประสิทธิภาพ เห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ สามารถฟื้นฟูเส้นผมให้กลับมาสวยอย่างเป็นธรรมชาติได้ คืนความมั่นให้คุณอีกครั้ง สามารถทำให้คุณเผยศักยภาพของตัวเอง อย่างเฉิดฉาย และเปร่งประกายได้ในสังคม เพราะสามารถทำทรงผมที่มั่นใจได้อีกครั้ง
ปัญหาผมร่วง ผมบาง หรือศีรษะล้าน สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากอะไร?
- สาเหตุจากพันธุกรรม – สาเหตุหลักของผมบาง ศีรษะล้านโดยเฉพาะในผู้ชาย
- ผมร่วงจากสาเหตุของผลิตภัณฑ์ที่ใช้ – หากเกิดการแพ้หรือการระคายเคือง จึงเป็นสาเหตุของผมร่วง
- สาเหตุจากโรคประจำตัว – เช่นโรคไทรอยด์ โรคถุงน้ำรังไข่เป็นต้น
- สาเหตุอื่นๆ ที่ทำให้ผมร่วง – เพราะจริงๆแล้วปัญหาผมร่วง เกิดจากหลายสาเหตุ ยกตัวอย่างเช่นความเครียด โภชนาการ กาาพักผ่อน ฯลฯ
ทำไมถึงต้องปลูกผม?
- เพิ่มความมั่นใจในการจัดแต่งทรงผมเส้นผม และแนวไรผมที่หนาขึ้นช่วยให้บุคลิกดูดีขึ้น
- เป็นการรักษาวิธีเดียวที่สามารถทำให้บริเวณที่เป็นปัญหากลับมามีผมได้อีกครั้ง
- สร้างแนวกรอบหน้าใหม่ เพื่อปรับรูปนหน้า และเพิ่มความคมชัดให้กับใบหน้า
ในปี 2025 นี้ เทคโนโลยีการปลูกผมได้พัฒนาไปไกลมาก มีเทคนิคที่ช่วยให้การปลูกผมมีประสิทธิภาพมากขึ้น แผลเล็กลง เจ็บน้อย ไม่ต้องพักฟื้น ผลลัพธ์หลังการปลูกที่เห็นได้ชัดเจนทันที ตั้งแต่หลังการปลูกผม และให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ PAVICON HAIR CENTER จะพาทุกท่านไปรู้จักกับเทคนิคการปลูกผมที่ได้รับความนิยมในปี 2025
วิวัฒนาการของเทคนิคปลูกผม
การปลูกผมเริ่มต้นขึ้นใน ค.ศ.1930 ในประเทศญี่ปุ่น โดยวิธีการปลูก ใช้ผมเป็นกระจุก มาเรียงกันในบริเวณที่ต้องการปลูก ซึ่งผลลัพธ์ยังไม่เป็นธรรมชาติมาก ต่อมาจึงได้มีเทคนิคแบบตัดหนังศีรษะที่เรียกว่า FUT ( Follicular Unit Transplantation) ซึ่งแพทย์จะตัดเอาหนังศีรษะออกมาเป็นชิ้นใหญ่แล้วนำไปแยกเป็นกอรากผม วิธีนี้ทำให้เกิดแผลเป็นยาวบริเวณท้ายทอย ต่อมาได้พัฒนาเป็นเทคนิคที่มีแผลเล็กลง และเจ็บน้อยกว่า นั่นคือ เทคนิค FUE (Follicular Unit Extraction) ที่เป็นพื้นฐานของการปลูกผมในปัจจุบัน ในปี 2025 เทคนิคปลูกผมได้ก้าวหน้าไปอีกระดับ มีเทคนิคใหม่ๆ ที่ช่วยให้การปลูกผมเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น ลดระยะเวลาพักฟื้น และทำให้ผู้เข้ารับบริการสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติเร็วขึ้น
เทคนิคยอดนิยมของปี 2025 นี้ ได้แก่
1.เทคนิค FUE (Follicular Unit Extraction)
2.เทคนิค AMF (Advanced Micrograft FUE ) – ปลูกผมโดยไม่ทำให้เกิดจุดไข่ปลา
3.เทคนิค DHI (DIRECT HAIR IMPLANTATION)
4.เทคนิค Non Shaven – ปลูกผมโดยไม่ต้องโกนผม
5.เทคนิค Long Hair – ปลูกผมยาวโดยไม่ต้องตัดหรือโกน เห็นผลลัพธ์ทันที
1. ปลูกผมเทคนิค FUE (Follicular Unit Extraction)
เทคนิค FUE เป็นการปลูกผมที่ได้รับความนิยมมาหลายปี โดยแพทย์จะใช้หัวเจาะขนาด ประมาณ 1 มิลลิเมตร เจาะนำกราฟต์ผมออกมาจากบริเวณท้ายทอย แล้วนำไปปลูกในบริเวณที่ต้องการ โดยใช้เข็ม และ Forceps ในการนำปลูก
ข้อดีของการปลูกผมเทคนิค FUE
-แผลเล็ก เจ็บน้อย ฟื้นตัวเร็ว
-ไม่ต้องผ่าตัด หรือวางยาสลบ ไม่ต้องพักฟื้น
-ไม่มีแผลเป็นแนวยาวแบบเทคนิค FUT
-ให้ผลลัพธ์ดู ใกล้เคียงธรรมชาติ
ข้อเสียของการปลูกผมเทคนิค FUE
-ปลูกได้ไม่หนาแน่นมากเพราะมีเนื้อเยื่อรอบรากผมเยอะทำให้ไม่สามารถปลูกชิดกันได้เท่าที่ควร ผลลัพธ์จึงไม่ได้เป็นธรรมชาติมากที่สุด และผลลัพธ์หลังปลูกทันทีจะเห็นเป็นจุดไข่ปลาในบริเวณที่ปลูก
ขั้นตอนการปลูกผมเทคนิค FUE
1.แพทย์ตรวจสภาพเส้นผม และออกแบบแนวไรผม
2.ตัดแต่งทรงผม เพื่อเจาะนำกราฟต์ผมที่ใช้ในการปลูกออกมา
3.แพทย์ทำการฉีดยาชาเฉพาะที่บริเวณที่จะนำกราฟต์ผมออกมา
4.ใช้หัวเจาะพิเศษดึงกราฟต์ผมออกมา เพื่อใช้ในการปลูกผม
5.คัดแยกกราฟต์ผม และแช่ในน้ำยาแช่กราฟต์
6.นำกราฟต์ไปปลูกในบริเวณที่ต้องการ หรือบริเวณที่มีปัญหา โดยใช้ เข็ม และ Forceps ในการนำปลูก
2. ปลูกผมเทคนิค AMF (Advanced Micrograft FUE)
AMF เป็นเทคนิคปลูกผมที่พัฒนาต่อจาก FUE โดย สามารถแก้ไขข้อบกพร่องของเทคนิค FUE ได้
ข้อดีของการปลูกผมเทคนิค AMF
– แผลเล็กกว่าปกติ ไม่ทำให้เกิดจุดไข่ปลา
– ฟื้นตัวเร็วกว่า FUE ปกติ
– การปลูกที่ได้ความหนาแน่นกว่าเทคนิคเดิม และได้ผลลัพธ์ใกล้เคียงธรรมชาติมากขึ้น
ขั้นตอนการปลูกผมเทคนิค AMF
1.แพทย์ตรวจสภาพเส้นผม และออกแบบแนวไรผม
2.ตัดแต่งทรงผม เพื่อเจาะนำกราฟต์ผมที่ใช้ในการปลูกออกมา
3.แพทย์ทำการฉีดยาชาเฉพาะที่บริเวณที่จะนำกราฟต์ผมออกมา
4.ใช้หัวเจาะพิเศษดึงกราฟต์ผมออกมา เพื่อใช้ในการปลูกผม
5.ตกแต่งกราฟต์ผม ตัดเนื้อเยื่อส่วนเกินให้เหลือเฉพาะเซลล์รากผม
6.นำกราฟต์ผมไปปลูกในบริเวณที่ต้องการ หรือบริเวณที่มีปัญหา โดยใช้ เข็ม และ Forceps ในการนำปลูก
3.เทคนิค DHI (DIRECT HAIR IMPLANTATION)
DHI เป็นเทคนิคที่พัฒนาต่อยอดมาจากเทคนิค FUE และ เทคนิค AMF โดยในการปลูกจะใช้อุปกรณ์ Implanter ในการนำปลูก สามารถบังคับทิศทางของแนวไรผมได้อยากเป็นธรรมชาติ
ข้อดีของการปลูกผมเทคนิค DHI
– ได้ผลลัพธ์ตามต้องการ เนียนแน่น แนวไรผมเป็นธรรมชาติ
– ใช้หัวเจาะขนาดเล็กพิเศษ จึงเกิดแผลที่เล็กมาก แทบไม่ต้องพักฟื้น
– ดูแลง่าย เห็นผลลัพธ์ในทิศทางของผม หลังจากปลูกเสร็จทันที
ขั้นตอนการปลูกผมเทคนิค DHI
1.แพทย์ตรวจสภาพเส้นผม และออกแบบแนวไรผม
2.ตัดแต่งทรงผม เพื่อเจาะนำกราฟต์ผมที่ใช้ในการปลูกออกมา
3.แพทย์ทำการฉีดยาชาเฉพาะที่บริเวณที่จะนำกราฟต์ผมออกมา
4.ใช้หัวเจาะขนาดเล็กพิเศษดึงกราฟต์ผมออกมา
5.ตกแต่งกราฟต์ผม ตัดเนื้อเยื่อส่วนเกินให้เหลือเฉพาะเซลล์รากผม
6.นำกราฟต์ผมไปปลูกในบริเวณที่ต้องการ หรือบริเวณที่มีปัญหา โดยอุปกรณ์ Implanter ในการนำปลูก
4. เทคนิค Non Shaven – ปลูกผมโดยไม่ต้องโกน
เนื่องจากเทคนิคการปลูกผมทั่วไป จะต้องมีการตัดผมบริเวณด้านหลัง เพื่อที่จะทำการเจาะนำกราฟต์ผมออกมา แต่เทคนิคนี้เป็นการปลูกผมแบบไม่ต้องโกนผมด้านหลังก่อนทำ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการปลูกผมโดยไม่ให้ใครสังเกตเห็น ทรงผมยังคงสภาพเดิมอยู่
ข้อดีของ Non Shaven FUE
-ไม่ต้องโกนผม สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติทันที
-ไม่มีใครสังเกตเห็นว่าปลูกผม ทรงผมปกติเหมือนเดิม
-ลดความกังวลสำหรับผู้ที่ต้องการรักษาภาพลักษณ์
-ใช้หัวเจาะขนาดเล็กพิเศษ แทบจะไม่เห็นรอยแผลเป็น
ขั้นตอนการปลูกผม Non Shaven
1.แพทย์ตรวจสภาพเส้นผม และออกแบบแนวไรผม
2.เตรียมผมพื้นที่ด้านหลัง เพื่อเจาะนำกราฟต์ผมที่ใช้ในการปลูกออกมา โดยไม่ต้องโกนผม ทั้งหมด ใช้วิธีการซ่อนแผลทำให้หลังปลูกเหมือนไม่ได้มีการโกนผมเลย
3.แพทย์ทำการฉีดยาชาเฉพาะที่บริเวณที่จะนำกราฟต์ผมออกมา
4.ใช้หัวเจาะขนาดเล็กพิเศษในการดึงกราฟต์ผมออกมา เพื่อใช้ในการปลูกผม
5.ตกแต่งกราฟต์ผม ตัดเนื้อเยื่อส่วนเกินให้เหลือเฉพาะเซลล์รากผม
6.นำกราฟต์ผมไปปลูกในบริเวณที่ต้องการ หรือบริเวณที่มีปัญหา
5. เทคนิค Long Hair – ปลูกผมยาว ไม่ต้องตัด ไม่ต้องโกน
Long Hair เป็นเทคนิคปลูกผมที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน เพราะเป็นการปลูกผม เทคนิคเดียว ที่ปลูกผมแบบผมยาว โดยไม่มีการตัด หรือการโกนผม ตัดผม จะนำผมยาวจากด้านหลังมาปลูกในบริเวณที่มีปัญหา ทำให้สามารถเห็นผลลัพธ์ แบบผมยาวทันทีหลังปลูก
ข้อดีของการปลูกผมเทคนิค Long Hair
-เห็นผลลัพธ์ทันทีหลังทำการปลูกผม
-ไม่ต้องตัด ไม่ต้องโกนผม
-หลังปลูกไม่ต้องพักฟื้น สามารถใช้ชีวิตได้ปกติ
-เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์แบบเร่งด่วน ทันที
ขั้นตอนการปลูกผมเทคนิค Long Hair
1.แพทย์ตรวจสภาพเส้นผม และออกแบบแนวไรผม
2.เตรียมผมพื้นที่ด้านหลัง โดยไม่มีการตัด การโกนผม เพื่อเจาะนำกราฟต์ออกมา
3.แพทย์ทำการฉีดยาชาเฉพาะที่บริเวณที่จะทำการเจาะ
4.ใช้หัวเจาะพิเศษ สำหรับการเจาะกราฟต์ผมแบบผมยาว และเครื่องเจาะที่มีความจำเพาะ สำหรับเทคนิคนี้เท่านั้น
5.ตกแต่งกราฟต์ผม ตัดเนื้อเยื่อส่วนเกินให้เหลือเฉพาะเซลล์รากผม
6.นำกราฟต์ผมไปปลูกในบริเวณที่ต้องการ หรือบริเวณที่มีปัญหา